ข้อมูลพื้นฐานทางด้านการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและครอบครัว
ในทัศนะของนักการศึกษากลุ่มปฏิรูปนิยม (Reconstructionism) จะมีความเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงของ
สังคมโดยเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
ทำให้เกิดความจำเป็นจะต้องสร้างคุณธรรมและความคิดใหม่เพื่อจะทำให้คนในสังคมสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้และครอบครัวมีบทบาทในการขัดเกลาทางสังคมให้แก่ผู้เรียน
อิทธิพลของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี: ความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้สังคมเปลี่ยนไป
ผู้เรียนเกิดความจำเป็นต้องเพิ่มความรู้ ทักษะใหม่ และต้องเปลี่ยนแปลงเจตคติใหม่
ทำให้เกิดความจำเป็นต้องสร้างคุณธรรมและความคิดใหม่เพื่อให้คนในสังคมสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้
โดยการใช้การศึกษาทำหน้าที่สร้างประชาชนที่มีคุณภาพและมีความสามารถที่จะปรับตัวเข้ากับสังคมที่มีความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม
หลักสูตรที่นำมาใช้จึงจำเป็นต้องมีความสอดคล้องกับความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความเจริญเหล่านี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในเรื่องของเนื้อหาของหลักสูตร
และการเรียนการสอน เช่น อุปกรณ์การสอนใหม่ๆ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกภาพและเสียง โปรเจคเตอร์ แท็บเลต และวิธีการสอนแบบใหม่
ซึ่งต้องใช้เครื่องมือต่างๆช่วย เช่น วิทยุการศึกษา โทรทัศน์การศึกษา
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ข้อมูลพื้นฐานสภาพปัญหาและแนวทางในการแก้ปัญหาของสังคม
สังคมไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ผู้คนในสังคมมีการเบี่ยงเบนความสัมพันธ์ไปจากเดิม
และสถาบันทางสังคมก็ทำหน้าที่ไม่ครบสมบูรณ์
สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้เกิดปัญหาสังคม ปัญหาสังคมไทยมีอยู่มากมาย
ดังนี้ 1)ปัญหายาเสพติด กำลังระบาดในหมู่เยาวชน ปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีคนติดสิ่งเสพติดมากกว่าสองล้านคน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชน สารเสพติดที่ระบาดในประเทศไทย เช่น ยาบ้า ยาไอซ์ (ฝิ่น กัญชา เฮโรอีน และแอมเฟตามีน) ซึ่งในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นด้วยมีการลักลอบนำเข้ามายังบริเวณชายแดนใต้และภาคเหนือของไทย
ในการจัดหลักสูตร ผ่านการสอนในสถานบันศึกษา นั้น
ต้องพิจารณาในการชี้ให้เห็นถึงโทษ
เช่นการให้ความรู้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาสิ่งเสพติดกับเด็กและเยาวชน อย่างทั่วถึง 2.ปัญหาเด็กและเยาวชนในวัยเรียน เช่น มั่วสุมตามสถานที่บันเทิง
โดดเรียน หนีเรียน ท้อง ทิ้ง แท้ง และปัญหาเหยื่อของโฆษณาทำให้เป็นผู้บริโภคนิยม
เป็นต้น การจัดการศึกษาในหลักสูตร คงต้องพิจารณาถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ปกครอง
โดยให้ความรักความอบอุ่นกับสมาชิกในครอบครัว และพร้อมทั้งส่งเสริมการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของ
บุตรหลาน ชุมชน
สังคมในการส่งเสริมการจัดเวลารวมทั้งพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนได้แสดงศักยภาพความสามารถตามความสนใจและความต้องการตามวัย
เพื่อเป็นการเสริมประสบการณ์ในทางสร้างสรรค์
ข้อมูลพื้นฐานสภาพปัญหา
และแนวทางการแก้ปัญหาในสังคม
สภาพปัญหาและแนวทางในการแก้ปัญหาของสังคมเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญที่ต้องศึกษา
สังคมไทยปัจจุบันกำลังประสบปัญหายุ่งยากหลายประการ ทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาเศรษฐกิจ
และปัญหาการเมือง ซึ่งการแก้ปัญหาเหล่านี้มีทั้งระยะสั้นระยะยาว
และการแก้ปัญหาอาจทำได้ชั่วคราวหรืออย่างถาวร การจัดการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงเป็นเรื่องสำคัญที่นักพัฒนาหลักสูตรจะต้องศึกษา
แล้วนำมาสร้างเป็นหลักสูตร ปัญหาสำคัญๆ
ที่ควรศึกษาคือ
1 ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ การขยายตัวของอุตสาหกรรม
และการใช้เทคโนโลยี ทำให้เกิดปัญหาสภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติในสังคมไทยมากขึ้น
เช่น ปัญหาการทำลายป่าไม้ ปัญหาความเสื่อมโทรมของดิน
ปัญหาน้ำเสีย และอากาศเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
เป็นต้น ปัญหาต่างๆ สมควรที่จะได้ศึกษาข้อเท็จจริงถึงสภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขเพื่อที่นำไปเป็นข้อมูลในการจัดการศึกษาและพัฒนาหลักสูตร
เช่น การกำหนดเนื้อหาในเรื่องสภาพแวดล้อม
การปลูกฝังการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ฉลาดถูกต้อง
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราสามารถกำหนดลงในเนื้อหาของหลักสูตรในระดับต่างๆ ตามความเหมาะสม
เพื่อที่ปลูกฝังความรับผิดชอบในสิ่งเหล่านี้ให้เกิดในผู้เรียน
และประเทศก็จะมีพลเมืองที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของประเทศ
ปัญหาเกี่ยวสิ่งแวดล้อมในอนาคตก็จะได้รับการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น
2 ปัญหาทางด้านสังคม ปัญหาทางสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มักจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสังคม
ซึ่งมีสาเหตุจากความเจริญทางด้านวัตถุและวัฒนธรรมตะวันตกหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยอิทธิพลของการสื่อสาร
ทำให้คนไทยรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาโดยเฉพาะในหนุ่มสาวหรือเยาวชน
ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางด้านความคิดระหว่างคนหนุ่มสาวกับผู้ใหญ่ที่ยึดมั่นในวัฒนธรรมเดิม
ทำให้เกิดปัญหากับยาเสพติด ปัญหาทางเพศ ปัญหาทางอาชญากรรม
ซึ่งการศึกษาปัญหาเหล่านี้จะเป็นข้อมูลในการจัดหลักสูตรเพื่อเตรียมเยาวชนสามารถดำรงอยู่ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุขและไม่เกิดปัญหา
3 ปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดยพื้นฐานนั้นประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพื้นฐานดั้งเดิมจากเกษตรกรรม
ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีพื้นฐานอยากจนและมีการศึกษาต่ำ ประชาชนเกิดการว่างงาน การย้ายถิ่นทำกินชนบทเข้าสู่เมือง หรืออัตราค่าจ้างแรงงานต่ำ สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจยาวนานของประเทศ
ประกอบกับในปัจจุบันประเทศต่างๆ
ประสบกับภาวะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจของโลกทั้งประเทศไทยด้วย ทำให้ปัญหาทางเศรษฐกิจในอดีต ปัจจุบัน และแนวโน้มปัญหาที่เกิดในอนาคต
เพื่อจะให้นำข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยกำหนดจุดหมายของหลักสูตร การสร้างหลักสูตรหลายวิชา
หรือการบรรจุเนื้อหาสาระให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถและประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ
ทำให้ผู้ที่จบการศึกษาในระดับต่างๆ สามารถออกไปประกอบอาชีพได้ และสามารถดำรงอยู่ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ โดยไม่เป็นปัญหาหรือภาระของสังคม หรือจัดการศึกษาเพื่อให้บุคคลสามารถสร้างงานได้
4 ปัญหาทางด้านการเมืองการปกครอง สภาพปัญหาทางด้านการเมืองของไทยเป็นมาอย่างยาวนาน
สมควรที่การศึกษาจะเข้าไปมีบทบาทในการพัฒนาด้านการเมือง
คือการให้ความรู้และปลูกฝังในเรื่องของประชาธิปไตย เพราะประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในท้องถิ่นชนบทมีความรู้เข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตยไม่ดีพอ
นอกจากนั้นประชาชนส่วนใหญ่
ยังขาดความสำนึกและความรับผิดชอบต่อวิถีทางแบบประชาธิปไตย ซึ่งจะเห็นได้จากการเข้ามีบทบาททางการเมืองยังเป็นเรื่องของคนกลุ่มน้อย
หรือจำนวนผู้ไปใช้เสียงในการเลือกตั้งแต่ละครั้งมีจำนวนน้อยมากเมื่อเปรียบกับผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมด
แม้ว่านักศึกษามีอายุที่จะใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้แล้วแต่อัตราส่วนผู้ใช้สิทธิ์ยังน้อยเหมือนเดิม
ในเมื่อผู้ได้รับการศึกษาที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตยเป็นอย่างดี
ยังขาดความสำนึกความรับผิดชอบเช่นนี้ นักพัฒนาหลักสูตรจึงควรที่จะได้ตระหนักและพัฒนาหลักสูตร
เนื้อหาวิชาหรือกิจกรรมการเรียนการสอนให้สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีจิตสำนึก
และความรู้สึงรับผิดชอบต่อการปกครองของประเทศ
จากสภาพปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างที่นักพัฒนาหลักสูตรจะตั้งคำนึงถึง
ทั้งนี้เพื่อให้หลักสูตรที่ร่างขึ้นมามีส่วนแก้ปัญหาสังคมและประเทศชาติโดยส่วนรวมบางปัญหาอาจแก้ได้โดยตรง
บางปัญหาการศึกษาแก้ไขโดยทางอ้อม ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักพัฒนาหลักสูตรจะต้องพิจารณาปัญหาเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจเลือกทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อสร้างคนที่เป็นประโยชน์แก่สังคม
หรือคนที่จะไปพัฒนาหรือแก้ปัญหาสังคมต่อไป
ขั้นตอนในการพิจารณาปัญหาและแนวทางแก้ไขมีดังนี้
1.
พิจารณาปัญหาที่ระบบการศึกษาเอื้ออำนวยในการปรับปรุงให้ดีขึ้น
2. พิจารณาสาเหตุ ข้อเท็จจริงสภาพปัญหา
3. พิจารณาวิชา
เนื้อหาและประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสม
4.
พิจารณากิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น